ปลูกมันสำปะหลังอย่างไรให้ได้มากกว่า 30 ตันต่อไร่

- พฤศจิกายน 17, 2556

มันสำปะหลังที่ให้ผลผลิตดี

สวัสดีท่านผู้อ่านและพี่น้องเกษตรกรทุกท่านครับ

สภาพอากาศบ้านเรา บางพื้นที่ก็หนาว บางพื้นที่ก็ร้อนๆ หนาวๆ ปนกันไป หน้านี้เป็นหน้าแล้งระวังเรื่องไฟด้วยนะครับ เพราะมีการเผาป่า หรือการเผาพื้นที่เกษตรหลังการเก็บเกี่ยว แนะนำว่าอย่าเผากันเลยนะครับ เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดมลพิษแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ การทำลายโครงสร้าง และองค์ประกอบของดิน เป็นผลเสียหายมากทางด้านผลผลิตในฤดูถัดไป ในพื้นที่ที่ทำการเกษตรอยู่
ช่วงนี้อย่าให้พืชขาดน้ำนะครับ เพราะจะทำให้ต้นไม้โทรม ผลผลิตตกต่ำ มีทั้งโรคและแมลงศัตรูพืชระบาด แมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยอ่อน และเพลี้ยแป้ง ควรทำการป้องกันด้วยนะครับ ส่วนโรคพืชอากาศหนาวขณะนี้ให้ระวัง เชื้อรา เช่น ราน้ำค้าง จะระบาดมากในสวนองุ่น และพืชตระกูลแตง ในพื้นที่ที่ยังไม่ปลูกพืช และมีระบบชลประทาน แนะนำให้ปลูกพืชคลุมดิน หรือปลูกพืชที่สามารถทำปุ๋ยพืชสดได้ เพื่อปรับปรุงดิน อีกประการหนึ่งที่เกษตรกรจะละเลยไม่ได้ คือ การหาข้อมูลในเรื่อง การผลิตพืช เช่นฤดูกาลหน้าจะผลิตพืชอะไร แนวโน้มการตลาดเป็นอย่างไร หรือท่านจะผลิตพืชพืชชนิดเดิมก็ได้ แต่ต้องหาวิธีการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น จึงจะครบหลักการ การทำเกษตรให้สมบูรณ์คือ

1. ดินดี

2. น้ำดี

3. พันธุ์ดี

4. การจัดการดี

5. การตลาดดี

การปลูกมันระบบน้ำหยดภายใต้การกำหนดโปรแกรมจาก Evergreen Khaoyai นี้ ได้ แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้

1.การตรวจวิเคราะห์คุณภาพดินในพื้นที่ปลูก จากการตรวจดินนี้ สามารถทำให้ทราบความเป็นกรดเบสของดิน (pH) ธาตุอาหารหลักในดิน N,P,K แล้วนำมาคำนวณเพื่อทำเป็นปุ๋ยสั่งตัด เป็นการลดต้นทุนในการให้ปุ๋ย

2. ไถพื้นที่ คือไถตากดินก่อน แล้วโรยด้วยอินทรีย์วัตถุไถซ้ำเพื่อคลุกเคล้า แล้วยกร่องให้ได้ระยะ 1.20 เมตร

3. วางระบบน้ำหยด (รายละเอียดเรื่องการคำนวณจะเขียนให้ทราบอีกครั้ง

4. ตัดท่อนพันธุ์ (ที่นี่ใช้พันธุ์เกล็ดมังกรจัมโบ้) ใช้เลื่อยตัดเพื่อให้แผลไม่ช้ำ แช่ท่อนพันธุ์ กำหนดระยะการปลูก แล้วปลูก (การแช่ท่อนพันธุ์ใช้ผลิดภัณฑ์ของเราเอง

5. ดูแลตามโปรแกรม

หากมีข้อสงสัยต่างๆหรือสนใจ สามารถติดต่อ 081-790-1924 (อาจารย์น้อย) ยินดีให้คำปรึกษาครับ