ปลูกมันสำปะหลัง 30 ตัน โดย Evergreen method
ผลิตภัณฑ์ Evergreen
- วิเคราะห์ความเป็นกรด-ด่างและธาตุอาหารในดิน ในแปลงเกษตรกรที่มีอยู่ ว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อประโยชน์ในการให้ปุ๋ยให้ได้สมดุลตามที่พืชต้องการ เป็นการลดต้นทุนให้เกษตรกร และเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร สภาพความเป็นกรดด่างของดินเกี่ยวข้องกับความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดิน เช่น ในดินที่มี pH ต่ำกว่า 5.5 หรือสูงกว่า 8.5 พืชจะแสดงอากาขาดแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม หรือในดินที่มี pH ต่ำกว่า 5.0 เมื่อใส่ปุ๋ยฟอสเฟตลงไป พืชจะใช้ประโยชน์ได้เพียงร้อยละ 10 ฟอสเฟตในดินจะถูกตรึงน้อยที่สุดในระดับ pH 6-7
- ไถพรวนดินด้วยผาน 3 ให้มีความลึกมากที่สุด เพื่อกลบวัชพืช ถ้าเป็นดินที่มีการปลูกพืชชนิดเดียวกันมานานอาจจะต้องมีการปลูกพืชที่เป็นปุ๋ยพืชสดก่อน เช่นพืชตระกูลถั่วต่างๆ โสน หรือปอเทือง หรือมีการไถเพื่อทำลายดินดานก่อน
- หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ให้หว่านอินทรีย์วัตถุ เช่น มูลสัตว์ต่างๆ ปุ๋ยหมัก อย่างน้อย 1 ตันต่อไร่ ถ้าดินมี สภาพที่เป็นกรดต้องปรับด้วยปูนขาว ปูนโดโลไมท์ หรือปูนมาร์ลก่อน เพื่อรับให้ pH เป็นกลางมาก ที่สุดแล้วไถแปรด้วยผาน 5 หรือผาน 7 เพื่อคลุกเคล้าปุ๋ยและทำให้ดินละเอียดมากที่สุด
- ยกร่องปลูก โดยใช้ไถยกร่องอ้อยก็ได้ ให้ได้หลังของร่องกว้างที่สุด กำหนดระยะปลูกอยู่ที่ 1.20 x 1.20 เมตร ( ระยะระหว่างต้น x ระยะระหว่างแถว ) ถ้าเป็นพื้นที่ที่มีความลาดเอียงไม่มาก น้ำไม่ขัง หรือพื้นที่เสมอกันให้ใช้จอบหมุนตีดินได้เลย หลังจากนั้นฉีดยาควบคุมการงอกของเมล็ดวัชพืชก่อนปลูก 1 สัปดาห์
- วางระบบการให้น้ำ การที่พืชจะเจริญเติบโตได้ดีนั้น พืชต้องดูดน้ำจากดินได้มากพอและตลอดเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทราบว่าดินชนิดหนึ่งๆ นั้น มีความสามารถเก็บน้ำได้มากน้อยเพียงใด พืชนำน้ำไปใช้ประโยชน์ได้แท้จริงเท่าไหร่ การเรียงตัวของเม็ดดินทำให้เกิดช่องว่างที่มีขนาดและรูปทรงต่างๆ เมื่อฝนตกหรือมีการให้น้ำกับพืช น้ำจะแทรกเข้าอยู่ในช่องว่างเหล่านี้ และเกาะติดกับเม็ดดินด้วยแรงยึดเหนี่ยวของดิน ถ้าหากน้ำเข้าไปแทนที่ช่องอากาศจนเต็ม เราเรียกว่าดินอิ่มน้ำ พืชโดยทั่วไปจะมีรากเพื่อการดูดน้ำและธาตุอาหาร การเคลื่อนย้ายธาตุอาหารเหล่านี้จำเป็นต้องมีความชื้นในดิน
- การเตรียมท่อนพันธุ์ พันธุ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้รับรองจากกรมวิชาการเกษตรแต่ให้ผลผลิตสูงกว่า มีอยู่สองสายพันธุ์ คือ เกล็ดมังกรจัมโบ้และ ไจแอ้นท์ เบอร์ 1ให้ตัดท่อนพันธุ์ โดยใช้เลื่อยฟันละเอียด ให้มีความยาวประมาณ 20 - 25 เซนติเมตร
- การแช่ท่อนพันธุ์ การเตรียมน้ำยาแช่ท่อนพันธุ์
- ใช้ถังที่มีขนาดบรรจุ 200 ลิตร ใส่น้ำลงไป 100 ลิตร
- ใช้กรดซิลิคอนและ Evergreen capsule 2 แคปซูล
- Evergreen Grow-up 1 อัตรา 100 ซีซี
- Evergreen Grow-up 2 อัตรา 25 ซีซี
- แช่ท่อนพันธุ์อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วยกออกมาผึ่งลมให้แห้ง
- จากนั้นนำท่อนพันธุ์ไปปลูกตามระยะที่กำหนด ปักให้มีความลึก 3 ใน 4 ของความยาวท่อนพันธุ์ เมื่อปลูกเสร็จทำการให้น้ำ หรือถ้าในกรณีดินมีความชื้นอยู่แล้ว ให้ฉีดพ่นด้วย Evergreen Soil ลงดินอัตรา 20 - 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- ระหว่างการปลูกมีโปรแกรมการดูแลดังนี้ ( ปุ๋ยทางดินสูตรนี้ เป็นสูตรที่ผ่านการวิเคราะห์ดินว่าดินเป็นดินเสื่อมสภาพ )
- อายุ 1 เดือน ฉีดพ่น
- Evergreen Grow - up 1 อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- Evergreen Grow - up 2 อัตรา 5 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- Evergreen capsule อัตรา 1 แคปซูลต่อน้ำ 40 ลิตร
- อายุ 2 เดือน ให้ปุ๋ยทางดิน และฉีดพ่น
- ให้ปุ๋ยสูตร
- 46 - 0 - 0 อัตรา 10 กก.ต่อไร่
- 18 - 46 - 0 อัตรา 5 กก.ต่อไร่
- 0 -0 - 60 อัตรา 5 กก.ต่อไร่
- ฉีดพ่น
- Evergreen Grow - up 1 อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- Evergreen Grow - up 2 อัตรา 5 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- Evergreen capsule อัตรา 1 แคปซูลต่อน้ำ 40 ลิตร
- อายุ 3 เดือน ให้ปุ๋ยทางดิน และฉีดพ่น
- ให้ปุ๋ยสูตร
- 46 - 0 - 0 อัตรา 10 กก.ต่อไร่
- 18 - 46 - 0 อัตรา 6 กก.ต่อไร่
- 0 -0 - 60 อัตรา 10 กก.ต่อไร่
- ฉีดพ่น Evergreen Soil อัตรา 20 - 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ลงดิน
- อายุ 4 เดือน ฉีดพ่น
- Evergreen Grow - up 1 อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- Evergreen Grow - up 2 อัตรา 5 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
- Evergreen Capsule อัตรา 1 แคปซูลต่อน้ำ 40 ลิตร
- อายุ 7 - 9 เดือน ให้ปุ๋ยทางดิน และฉีดพ่น
- ให้ปุ๋ยสูตร
- 46 - 0 - 0 อัตรา 8 กก.ต่อไร่
- 18 - 46 - 0 อัตรา 7 กก.ต่อไร่
- 0 -0 - 60 อัตรา 12 กก.ต่อไร่
- ฉีดพ่น Evergreen Soil อัตรา 20 - 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ลงดิน
- เมื่อวัชพืชงอกให้ทำการกำจัดด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าหรือการทำรุ่น เมื่อต้นมันสำปะหลังได้อายุ ประมาณ 3 เดือน ต้นมันจะคลุมการงอกของหญ้าไปเอง
- สิ่งสำคัญในการดูแลรักษาต้องอย่าให้ดินขาดความชื้น เพื่อป้องกันการระบาดของเพลี้ยแป้งได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น